Animated Dragonica Star Glove Pointer

แพรว





"แกน่ะเคยทำอะไรให้พ่อแม่ได้ภูมิใจบ้างไหมเรียนก็ไม่ได้เรื่องสู้น้องไม่ได้สักอย่างทำอะไรก็ไม่เป็น"


เสียงแม่ด่าไม่เว้นแต่ละวันโดยเฉพาะทุกครั้งวันประกาศผลสอบด้วยแล้วแพรวไม่อยากจะคิดเลย


แม่มักจะว่าเธอทุกครั้งที่เห็นผลสอบของเธอแพรวมีน้องสาวอีกหนึ่งคนชื่อว่า"แพร"



แพรเป็นคนเรียนเก่งเล่นกีฬาเก่งและที่สำคัญแพรเป็นคนสวยและน่ารักใครๆก็อยากเข้าใกล้


นั่นล่ะคือข้อแตกต่างระหว่างเธอและน้องส่วนเธอไม่มีอะไรดีสักอย่าง



แพรวเคยคิดอยู่เสมอว่าหากวันใดที่ไม่มีเธอแม่คงจะดีใจเพราะเธอไม่เคยทำอะไรได้ถูกใจแม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว


แม่ไม่เคยยิ้มกับเธอไม่เคย.....เลย......แม้สักครั้งพ่อมักจะคอยอยู่ข้างแพรวเสมอในยามที่แม่ว่าเธอ


แต่เดี๋ยวนี้พ่อไม่ค่อยอยู่บ้านนานๆครั้งพ่อถึงจะกลับบ้านเมื่อพ่อกลับมาแพรวจะดีใจมากจนวิ่งเข้าไปหาพ่อเป็นคนแรก



แพรวกำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายอยู่ในห้องเพลินๆ ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้วเธอได้ยินเสียงรถเข้ามาในบ้านใช่แน่ๆต้องเป็นพ่อเธอปิดหนังสือวางไว้บนเตียง ใบหน้ายิ้มแย้มพ่อกลับมาแล้วดีใจจังฉับพลันแพรวก็รีบวิ่งลงไปข้างล่างแล้วเธอก็หยุดเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันมา



"เก่งจังลูกพ่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ด้วยอย่างนี้พ่อคงต้องให้รางวัลซะแล้ว"


พ่อยิ้มแย้มเมื่อได้ทราบข่าวว่าลูกสาวคนเล็กสอบได้มหาวิทยาลัยของรัฐบาล


"น่าจะให้รางวัลแกสักหน่อยนะคะคุณ"


แม่เองก็พลอยยิ้มแย้มไปด้วยรอยยิ้มของแม่ซึ่งแพรวเองไม่มีทางได้

"เอาอย่างนี้เราไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวเลยดีไหมแล้วยัยแพรวล่ะคุณผมไม่เห็นเลย"


พ่อเริ่มสังเกตว่าลูกสาวคนโตไม่ได้อยู่ที่นั่น


"โอ๊ยรายนั้นอย่าไปพูดถึงเลยค่ะคุณวันๆเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องอย่าไปสนใจเลยค่ะ เรื่องไปเที่ยวก็ไม่รู้จะไปหรือเปล่า แม่ว่าเราไปดูกันดีกว่าไหมลูกว่าจะไปเที่ยวไหนกันดีไหมจ๊ะ"


แม่หันไปสนใจลูกสาวคนเล็กแทน


แล้วทั้งสามพ่อแม่ลูกก็พากันไปดูหนังสือท่องเที่ยวแพรวมองภาพนั้นน้ำตาร่วงเผาะๆ


นี่เธอเป็นส่วนเกินของบ้านหรือเปล่า


แพรวเดินออกไปทางด้านหลังบ้านเงียบๆโดยที่ไม่มีใครใส่ใจว่าเธอจะอยู่ที่นั่นหรือเปล่า

แพรวนั่งลงที่โต๊ะที่สนามหลังบ้านคนเดียวท่ามกลางแสงจันทร์


"กำลังคุยกับพระจันทร์อยู่หรือไง"มีเสียงดังมาจากบ้านข้างๆ

ชายหนุ่มยิ้มหน้าทะเล้นอยู่ที่กำแพงบ้านแพรวหันไปยิ้มให้


"วันนี้กลับมาบ้านช้าจังนะ"แพรวหันไปคุยกับต้นซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเธอเอง


ต้นเป็นทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนของเธอเขาอยู่ข้างเธอเสมอในยามที่เธอมีเรื่องทุกข์ใจ



"ขอไปคุยด้วยนะ"ว่าแล้วต้นก็กระโดดข้ามรั้วมายังบ้านของแพรวเขานั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเธอ


"เป็นอะไรน่ะทำหน้าไม่สบายใจอย่างนั้น"เขาจ้องมาที่หน้าของเธอ



"เปล่าหรอกก็คิดอะไรเรื่อยๆ"แพรวปฏิเสธ



"เอาอีกแล้วชอบคิดมากอยู่เรื่อยๆเลยนะแพรวต้นบอกแล้วอย่าคิดมาก"

ต้นตำหนิเหมือนเธอเป็นเด็กๆ



"เรา.....เรา......"น้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นไว้ตอนนี้มันกลั้นไว้ไม่ไหวเสียแล้ว

"อยากร้องก็ร้องออกมาเลยร้องออกมาให้หมดต้นจะอยู่ข้างๆแพรวเองนะ"

เขากุมมือของเธอเอาไว้เป็นการปลอบใจสักพักแพรวก็หยุดร้องไห้



"ขอบใจมากนะถ้าไม่มีต้นเราก็คงไม่รู้จะไปร้องไห้กับใคร"แพรวเริ่มยิ้มออก



"พี่ต้นคะ"เสียงแพรดังมาจากทางด้านหลังของทั้งสองต้นและแพรวหันไปทางต้นเสียงนั้น



"แพรมีอะไรเหรอ"



"แพรสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ค่ะแล้วพ่อก็กำลังจะพาพวกเราไปเที่ยวต่างจังหวัดค่ะ"

แพรยิ้มแย้มพูดคุยกับต้นโดยที่ไม่หันมาแพรวหรือสนใจเลยสักนิดว่าพี่สาวของเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย



"อย่างนั้นแพรวก็ไปกับเขาด้วยสิ"ต้นหันมามองหน้าแพรว



เธออ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร"พวกเรา"ที่แพรหมายถึงนั้นคงหมายถึงแค่พ่อแม่และแพรมากกว่า



"ต้นแพรวขอตัวก่อนนะจะขึ้นนอนแล้วล่ะฝันดีนะ"แพรวลุกขึ้นร่ำลาเพื่อนแล้วก็เดินเข้าบ้านไป

ส่วนแพรอยู่คุยต่ออีกสักพักต้นก็ขอตัวเข้าบ้าน



แพรวกลับมานั่งอ่านหนังสือนิยายของเธอต่อเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นแพรวดีใจรีบไปเปิดประตู

พ่อคงมาหาเธอสินะแพรวเปิดประตูพร้อมกับรอยยิ้มแต่ทันใดนั้นรอยยิ้มนั้นก็จางไป

เมื่อคนที่เคาะประตูนั้นไม่ใช่พ่อแต่เป็นแพรนั่นเอง



"ขอฉันเข้าไปในห้อ'หน่อยฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่"แพรพูดด้วยน้ำเสียงห้วน



"เข้ามาก่อนสิ"แพรเดินเข้ามาทำท่าทางสำรวจห้องแล้วก็นั่งลงกับเตียงอย่างถือวิสาสะ



"ฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่"

แพรวปิดประตูแล้วหันมามองหน้าน้องว่ากำลังจะบอกอะไรกับเธอ



"พี่ต้นน่ะเขาไม่เหมาะสมกับพี่หรอกนะเขาทั้งหล่อเรียนเก่งแล้วก็รวยแล้วดูตัวพี่สิมีอะไรเทียบเขาได้บ้าง

ทางที่ดีพี่อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่าพี่ก็น่าจะรู้ตัวเองดีนะฉันพูดแค่นี้หวังว่าพี่คงจะเข้าใจถ้าไม่โง่จนเกินไป"

ว่าแล้วแพรก็เปิดประตูห้องแล้วก็เดินกลับที่ไปที่ห้องของตัวเองทิ้งให้แพรวงุนงงกับคำพูดทั้งหลายของน้องสาว



หลังจากวันนั้นแพรวพยายามหลบหน้าต้นอยู่ตลอดเวลา

ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและไม่เข้าใจว่าหญิงสาวกำลังพยายามคิดจะทำอะไรกันแน่



"แพรว"

ต้นเรียกเอาไว้ในขณะที่แพรวกำลังเดินจะเข้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงเรียกเธอก็รีบจ้ำอ้าวเพื่อหนีเข้าบ้าน

แต่ไม่ทันต้นที่วิ่งมาดักหน้าเอาไว้



"นี่แพรวกำลังหลบหน้าต้นใช่ไหม"

ต้นจ้องหน้าเธอพยายามจะขอคำตอบ



"มันไม่ใช่อย่างนั้น"แพรวปฏิเสธ



"แพรวแพรวเป็นอะไรไปบอกต้นสิเกิดอะไรขึ้น"

ต้นเริ่มเสียงดังขึ้นเขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วในตอนนี้



"แพรวเปล่า"เธอไม่รู้จะพูดอย่างไรได้แต่ปฏิเสธลูกเดียวทั้งต้นและแพรวเริ่มทะเลาะเสียงดังมากขึ้น



"ต้นรักแพรวนะได้ยินไหมต้นรักแพรว"

เขาพูดเสียงดังและก็ดังมากพอที่แพรที่ยืนอยู่หน้าบ้านจะได้ยินด้วย



แพรวดีใจเหลือเกินที่เธอได้ยินคำนั้นจากปากเขาแต่เธอไม่อยู่ในฐานะที่จะรับความรู้สึกนั้นได้

แพรวไม่รู้จะทำอย่างไรเธอได้แต่ร้องไห้รู้สึกสับสนไปหมดอ้อมแขนที่แข็งแรงของเขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ความรู้สึกนี้ที่เธอไม่เคยได้จากผู้เป็นพ่อหรือแม่เลยสักครั้งเดียว แพรวรู้สึกอบอุ่นและมั่นคงแต่นั่นไม่ได้ช่วยให้เธอแก้ปัญหาทุกๆอย่างได้



"พี่แพรวพี่ต้น"แพรตะโกนด้วยเสียงเกรี้ยวกราดทำให้ทั้งสองผละจากกันแพรวรีบปาดน้ำตาทิ้งให้หมด



"พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไงกันไหนพี่ว่ายกพี่ต้นให้ฉันแล้วแต่วันนี้กลับจะกลืนน้ำลายตัวเองหรือไงกัน"

แพรต่อว่า



"นี่มันอะไรกันแพรวต้นไม่เข้าใจ"

ต้นหันมามองหน้าแพรวแววตาของเขาสับสนกับเรื่องที่ได้ยินมาก



"พี่ไม่ได้พูดอย่างนั้นแพร"แพรวส่ายหน้าปฏิเสธ



"พี่พูดสิพี่พูดจำไม่ได้หรือไง"แพรขี้ตู่เอาอย่างนั้นเธอจ้องหน้าแพรวดวงตานั้นแสดงแววเกลียดชัง



"แพรวต้นเข้าใจแล้วแต่ต้นขอบอกอย่างนะต้นมีหัวใจและไม่ใช่สิ่งของที่แพรวจะยกให้ใครก็ได้แพรวใจร้ายมากที่ทำกับต้นอย่างนี้ ในเมื่อแพรวไม่ต้องการต้นก็น่าจะบอกกันดีๆไม่น่าทำกันอย่างนี้เลยต้นเสียใจจริงๆ" ต้นมองแพรวด้วยสายตาที่เย็นชา



แล้วคำว่า"รัก"ล่ะหายไปไหนกันแพรวไม่อาจจะทนอยู่ตรงนั้นได้



ต้นเดินจากไปไม่ฟังแม้เสียงเรียกของเธอแพรวจึงวิ่งเข้าบ้านไปแต่แพรยังคงตามเข้ามาในห้องรับแขกอีก



"เธอทำอย่างนี้ทำไมกันแพร"แพรวร้องไห้เธออยากจะรู้นักว่าน้องสาวของเธอทำไมถึงได้ใจร้ายอย่างนี้



"ฉันอยากจะให้พี่เจียมตัวเอาไว้ว่าพี่น่ะมันเป็นใครกันพี่ไม่เหมาะกับเขาฉันเคยเตือนพี่แล้ว พี่เองก็น่าจะรู้ตัววันนั้นฉันคงพูดไม่ชัดเจนแต่วันนี้ฉันจะขอประกาศฉันรักพี่ต้น และจะทำทุกวิถีทางไม่ว่าจะทางใดก็ตามให้เขารักฉัน"



"เธอมันปีศาจชัดๆ"มือของเธอฟาดลงไปบนใบหน้าของน้องสาวเสียงดังเพี๊ยะ



"เกินไปแล้วนะนังแพรวแกกล้าตบลูกชั้นเหรอ"เสียงแม่ตะวาด



"แพรวทำร้ายแพรค่ะแม่แม่ต้องช่วยแพรนะคะ"แพรรีบวิ่งแจ้นไปหลบหลังแม่และฟ้องแม่ทันที



"แกกล้าดียังไงมาทำอย่างนี้กับลูกชั้นสู้น้องไม่ได้อิจฉาน้องแล้วทำร้ายร่างกายน้องหรือไงมากไปแล้วนะ" แม่ฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าสีขาวซีดของแพรวเป็นการเอาคืนที่แพรวตบหน้าน้องสาว

แพรวกุมใบหน้าของตัวเองไว้น้ำตาไหลพรากอย่างกั้นไม่อยู่



"คำก็ลูกชั้นสองคำก็ลูกชั้นแพรวถามจริงๆเถอะเเม่เก็บเเพรวมาเลี้ยงหรือป่าวเปล่าทำไมเเม่ไม่เคยรักเเพรวเลย เเม่ไม่เคยเห็นเเพรวเป็นลูกเลยใช่ไหมคะเเพรวสู้น้องไม่ได้เเพรวไม่เคยทำให้เเม่ภูมิใจไม่เคยทำให้เเม่ดีใจเลยใช่ไหมคะ เเม่ถึงไม่รักเเพรวใช่ไหมคะเเม่"เเพรวมองหน้าเเม่จ้องมองหน้าผู้เป็นเเม่หาคำตอบ



ผู้เป็นเเม่อึ้งเมื่อเห็นภาพนั้นเเต่เเล้วก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

"เเกอย่ามานอกเรื่องนะ"เเม่ตวาด



เเพรวรู้สึกเสียใจมากที่เเม่ไม่เคยเห็นความรู้สึกของเธอเลยเธอจึงเดินออกจากบ้านไป

เเต่ยังคงได้ยินเสียงเเม่ที่ตะโกนด่าไล่หลังมา



เเพรวเดินมากดออดบ้านของต้นพี่เดือนคนทำงานบ้านเดินออกมาเปิดประตูเเละให้เธอรออยู่สนามหน้าบ้าน ต้นเดินมาพบเธอเเล้วเเววตาของเขาที่มองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาราวกับไม่รู้จักกันมาก่อน



"ต้นเเพรวขอโทษเเต่เเพรวขอยืนยันว่าเเพรวไม่เคยยกต้นให้ใคร เเพรวรักต้นรักเสมอเเละจะรักตลอดไป"เธอพูดกับหลังของเขาเพราะต้นไม่เเม้เเต่จะหันหน้ามามองเธอ



"เก็บคำว่ารักของเเพรวไว้เถอะต้นซึ้งใจกับมันมากกลับไปได้เเล้วต้นมีงานต้องทำ"เขาตัดบท



เเพรวรู้สึกเสียใจที่เเม้เเต่คนที่เคยบอกว่าจะอยู่ข้างเธอก็ยังเย็นชากับเธอวันนี้เเพรวไม่เหลือใครอีกเเล้ว

เเพรวมองภาพชายหนุ่มที่เธอรักมากที่สุดก่อนที่จะเดินจากไปพร้อมน้ำตาเงียบๆ



ต้นเหลือบมองหญิงสาวเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวเลยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้มีโอกาสมองเห็นเธอในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่



คืนนั้นขณะเเพรวเขียนจดหมายไว้สองฉบับวางไว้บนโต๊ะ

เเล้วเธอก็เดินลงไปข้างล่างพบเเม่กำลังนั่งดูทีวีอย่างมีความสุขกับเเพร

เธอนั่งพับเพียบกราบลงที่เท้าเเม่ไม่เข้าใจการกระทำของเธอจึงเอาเท้าหนี

เเพรวเงยหน้าขึ้นมองเเม่"ขอให้เเพรวได้มีโอกาสกราบเเม่เป็นครั้งสุดท้าย"

เธอพูดทั้งน้ำตาเเล้วก็เดินจากไปขึ้นห้องนอน



เช้าวันรุ่งขึ้นพ่อกลับมาบ้านพร้อมกับตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวภูเก็ตพ่อเปิดประตูห้องนอนของเเพรว

เพื่อจะพาลูกสาวคนโตไปเที่ยวด้วยเเต่สิ่งที่เห้นคือเเพรวยังคงนอนอยู่บนเตียงเช่นเดิม



"เเพรวไปเที่ยวกันเถอะลูกเอาเเต่นอนอยู่เดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอกปกติเราไม่นอนขี้เซาอย่างนี้นี่"

พ่อเดินยิ้มมานั่งลงที่เตียงข้างๆเธอเเต่เเพรวยังคงนอนไม่ลุกขึ้นมาคุยมายิ้มกับพ่อเหมือนเดิม



"เเพรวเเพรว"พ่อเรียกย้ำอีกมือที่กำอยู่เเบออกยานอนหลับจำนวนมากอยู่ในมือของเธอพ่อมองเเล้วหน้าซีด



"เเพรวไม่นะเเพรวลูกอย่าทำอะไรโง่ๆนะเเพรว"พ่อตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจ



พ่อกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเเพรวเอาไว้เเน่นบัดนี้เธอไม่ต้องเเบกความทุกข์อีกเเล้ว

ไม่ต้องเสียใจเเละไม่ต้องมีน้ำตาอีกมีเพียงซองจดหมายสองซองที่พอจะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด



กราบเท้าคุณพ่อคุณเเม่

ขณะที่กำลังอ่านจดหมายฉบับนี้เเพรวคงไม่อยู่ที่นี่เเล้ว

เเพรวอยากจะขอโทษในทุกๆอย่างเเม้เเพรวจะไม่ใช่ลูกที่ดีไม่เคยทำให้พ่อเเละเเม่ภูมิใจ

เเพรวอยากเห็นรอยยิ้มของเเม่สักครั้งที่ยิ้มให้เเพรวเเต่ตอนนี้เเพรวคงไม่มีโอกาสนั้นเเล้ว

เเม้เเม่จะไม่เคยรักเเพรวเเม้เเม่จะว่าเเพรวเเต่เเพรวไม่เคยโกรธเเม่เลยสักครั้ง

เเพรวรู้ตัวดีว่าเเพรวไม่เคยทำให้เเม่ชื่นใจจะเเปลกอะไรถ้าเเม่จะไม่รักเเพรวเเพรวรู้ฐานะของตัวเองดี

วันนี้ไม่มีเเพรวเเม่คงสบายใจเเพรวหวังว่าการตัดสินใจของเเพรวครั้งนี้คงจะถูกใจเเม่

อย่างน้อยก็มีสักครั้งที่เเพรวได้มีโอกาสทำเพื่อเเม่

เเพรวอยากบอกพ่อกับเเม่ว่า

"เเพรวภูมิใจค่ะที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับเเม่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรืออะไรจะเปลี่ยนเเปลงไป

ไม่ว่าเเพรวจะไปอยู่ที่ไหนเเต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหลืออยู่เเละจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปคือเเพรวรักพ่อกับเเม่ค่ะ"

รักเสมอจากลูกสาวคนโต

เเพรว.



"เเพรวไม่นะลูกไม่"พ่อยังคงร้องไห้เสียใจกับการจากไปของลูกสาวคนโต



"เเพรววววววววว........."เสียงของผู้เป็นเเม่ร้องไห้เธอไม่น่าเลย

ต้นเหตุที่ทำให้เเพรวตัดสินใจอย่างนี้ก็คือเธอเธอคนเดียวเเม่ร้องไห้เสียใจกับการกระทำของตัวเอง

"เเพรวลูกรักเเม่ขอโทษที่ไม่เคยใส่ใจลูกไม่เคยจะสนใจความรู้สึกของลูก

เเม้ลูกจะไม่เคยทำอะไรให้เเม่ภูมิใจเเต่เเม่ก็รักลูกเเม่ขอโทษลูกเเพรว...ลูกอยากเห็นเเม่ยิ้มใช่ไหมจ๊ะ

เเม่จะยิ้มให้ลูกเห็นนะลูกเเม่จะเอาใจลูกทุกอย่างที่ลูกต้องการเลยขออย่างเดียวอย่าทิ้งเเม่ไปนะลูก

กลับมาหาเเม่สิลูกเเพรวววว"ผู้เป็นเเม่ร้องไห้คร่ำครวญต่อร่างที่ไม่ไหวติงของลูกสาว

เเม่กอดเเพรวเอาไว้เเน่นนี่เเหละที่เธออยากได้มานาน



ต้นตื่นขึ้นมาตอนเช้าพี่เดือนยื่นซองสีชมพูให้เขาทำให้เขารู้สึกเเปลกใจมากว่านั่นคืออะไร

"จดหมายจากคุณเเพรวค่ะ"พี่เดือนบอกเเค่นั้นต้นรับมาอย่างงุนงงเขาค่อยๆเเกะจดหมายออก

เห็นใจความในจดหมายว่า



ถึงต้นคนที่เเพรวรักมากที่สุด

เเม้ต้นจะไม่ยอมรับคำว่ารักจากเเพรวเเต่เเพรวก็ยังยืนยันว่าเเพรวรู้สึกเช่นนั้น

เเพรวรักต้นเเละรักมานานเเล้วต้นเป็นคนเเรกเเละคนเดียวที่อยู่ข้างเเพรวในยามที่เเพรวท้อเเท้เเละหมดกำลังใจ เเละเป็นคนเดียวที่เเพรวรักเเพรวดีใจมากที่ได้ยินว่าต้นเองก็รักเเพรวเช่นกัน

เเต่ต่อไปนี้จะไม่มีเเพรวที่ขี้เเยต้องร้องไห้ให้ต้นคอยปลอบอีกเเล้ว

เเพรวรักต้นเสมอนะเเละจะรักตลอดไปไม่ว่าเเพรวจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

รักตลอดไป

เเพรว..



"เเพรวเอามาให้หรือครับพี่เดือน"ต้นหันมาถาม



"เปล่าหรอกค่ะคุณวินิตคุณพ่อของเธอเอามาให้ค่ะคุณเเพรวเธอเสียเเล้วค่ะ"

"เเพรวตายเเล้ว"คำพูดนั้นยังคงก้องอยู่ในหูของเขา



"ไม่จริงเเพรวไม่ตายไม่........."ต้นร้องอย่างบ้าคลั่ง



หลังจากได้รู้จากพี่เดือนว่าเเพรวกินยานอนหลับเกินขนาดจนเสียชีวิตเมื่อคืนเขาเองก็มีส่วนผลักดันให้เธอทำเช่นนั้น



เขายืนค้างไร้ความรู้สึกใดๆเเต่เเล้วก็มีลมผ่านมาเย็นๆวูบหนึ่ง

เเล้วก็กลายเป็นความรู้สึกที่อบอุ่น



"ต้นเเพรวรักต้นที่สุดเเพรวอยากอยู่กับต้นอยากให้ต้นอยู่ข้างๆเเพรวเเต่เเพรวคงทำไม่ได้เเล้ว

เเพรวต้องไปเเล้วถึงเวลาของเเพรวเเล้ว"



เเพรวกอดเขาเป็นครั้งสุดท้ายเเล้วจากไปต้นรู้สึกได้ว่านั่นคือเเพรวเเต่เขาคงไม่มีทางรั้งเธอไว้ได้อีกเเล้ว

เขาเป็นคนที่อยู่ข้างๆเธอคอยดูเเลเธอให้ความรักกับเธอ



เเพรวเองรักก็เขาเเต่วันนั้นเขากลับปฏิเสธความรู้สึกของเธอทำลายความรู้สึกของเธออย่างไม่ไยดี

วันนี้สวรรค์คงลงโทษเขาเเล้วเเพรวจากไปเเล้วเขาไม่มีโอกาสได้ดูเเลผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดอีกเเล้ว

สิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็คือคำว่ารักกับเวลาที่สายไปนั่นคือบทลงโทษที่สวรรค์มอบให้.





ขอบคุณเรื่องสั้นดีๆ จาก 

โพสต์โดย : สถานีคำคม ~ สถานี คำคม

เพจ แพรว โพสต์โดย สถานีคำคม เมื่อ วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2562