Animated Dragonica Star Glove Pointer

โชคชะตาชอบเล่นตลก






คุณเชื่อในเรื่องพรมลิขิต หรือโชคชะตารึเปล่า ?
แล้วคุณเคยได้ยินคำว่า "โชคชะตาชอบเล่นตลก" รึเปล่า

ผมกับเธอเจอกันโดยบังเอิญสุดๆ อาจเรียกได้ว่าเป็นโชคชะตาก็ได้ แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับผม

เธอ ถูกคนชั่วขับรถ ชน! แล้วหนี ...ผมซึ่งกำลังนั่งทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านข้างทาง ได้เห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา และจำเลขทะเบียนไอ่คนชั่วนั้นได้ด้วย ผมเข้าไปช่วยเธอไว้ และพาเธอไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

.........................

โชคชะตาเล่นตลกกับผมอีกแล้ว ....หมอบอกกับผมว่า เธอถูกรถชนอย่างแรง จนทำให้ ตาของเธอบอด!! แต่ทว่ายังโชคดีที่เธอรอดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ....หมอถามผมว่า ผมเป็นอะไรกับเธอ ?

ผมตอบไปว่า "ผมเป็นเพียงผู้เห็นการณ์ และได้พาเธอมาส่งโรงพยาบาลครับ"

หมอบอกกับผมว่า หมอรู้จักกับเธอ ......

"เธอเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลเก่าที่หมอเคยอยู่" หมอบอกต่อว่า
"เธอกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เธออาศัยอยู่กับยายสองคน จึงทำให้เธอโตมาเป็นคนที่เข้มแข็งอดทน มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และยังสดใสร่าเริงอีกด้วย แต่ยายของเธอก็เพิ่งเสียชีวิตเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เธอเองก็ต้องมาประสบเรื่องร้ายอีก มันไม่ควรเกิดขึ้นกับเธอเลย" หมอกล่าว

ผมได้ฟังเรื่องของเธอจากหมอ แล้วก็คิดสงสารเธอ หลังจากที่เธอออกมาจากห้องฉุกเฉินแล้ว ก็ได้พักที่ห้องพิเศษห้องหนึ่ง ผมเข้าไปเยี่ยมเธอ แต่พบว่าเธอกำลังนอนหลับอยู่ ผ้าสีขาวที่ปิดตา เป็นเครื่องยืนยันคำพูดของหมอ..... ผมเห็นว่าตอนนี้เย็นมากแล้ว จึงกลับบ้าน โดยไม่ได้บอกกล่าวกับเธอเลย

.........................

วันนี้เป็นวันเสาร์ ผมออกไปซื้อข้าวข้างนอกบ้าน ......ระหว่างทาง ผมนึกถึงเหตุการณ์เรื่องเมื่อวาน ผมตัดสินใจ ไปเยี่ยมเธอ

.........................

ผมมาถึงห้องที่เธอนอนพักอยู่ วันนี้ไม่มีใครมาเยี่ยมเธอเลย อาจเป็นเพราะว่ายังไม่มีใครรู้เรื่องเธอก็ได้ อีกทั้งวันนี้เป็นวันหยุดด้วย

ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนๆ ของเธออาจจะคิดว่าเธอพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ...ผมคิดตวามความคิดของผม ทันใดนั้น ผมก็ต้องชะงัก เมื่อเธอถามผมว่า

"ขอโทษนะคะ นั่นใครเหรอคะ ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สงสัยเป็นอย่างมาก

"อ๋อ....เอ่อ.. พอดีเมื่อวานผมเห็นคุณถูกรถชน ก็เลยพามาส่งโรงพยาบาลน่ะครับ แหะๆ" ผมตอบอย่างตะกุกตะกัก

"อ่า ต้องขอบคุณด้วยนะคะ คุณ......." เธอเงียบไปสักพัก

"ผม นวคุณ ครับ เรียกสั้นๆ ว่า"คุณ"ก็ได้ครับ แหะๆ"

"ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ"คุณ"" เธอพูดพร้อม ยิ้มเล็กน้อย

...............

ผมอยู่เป็นเพื่อนเธอ คุยเรื่องราวต่างๆ มากมาย เธอเป็นคนร่างเริง มองโลกในแง่ดีและเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ผมคุยกับเธอจนเวลาล่วงเลยถึง สองทุ่ม จึงได้ลาเธอกลับไปพักผ่อนที่บ้าน

ก่อนกลับผมบอกเธอว่า พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมอีก เธอยิ้มให้ผม และพูดว่า
"ขอบคุณมากนะ คุณเป็นคนใจดีจังเลย"

.........................

วันรุ่งขึ้น เป็นวันอาทิตย์ หลังจากที่ผมอาบน้ำ ทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปเยี่ยมเธอตามที่ได้บอกไว้

ผมก็ต้องแปลกใจอีกที เมื่อไม่มีใครมาเยี่ยมเธอเลย ผมจึงได้ถามเธอไป ....เธอตอบผมว่า

เธอเพิ่งลาออกจากงาน เพราะว่าจะกลับไปหางานทำแถวบ้านเกิดต่างจังหวัดเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเศร้ายิ่งนัก ผมพยายามปลอบใจเธอ และบอกเธอว่า ผมจะมาเยี่ยมเธอทุกวันเลย อย่างน้อยเธอก็จะได้มีคนคุยด้วย

....เธอยิ้มให้ผม และขอบคุณผม การได้เห็นรอยยิ้มของใครสักคนหนึ่ง ที่ยิ้มให้เราอย่างเต็มใจมันก็เป็นความสุขได้ไม่ง่ายเช่นกัน ผมคิดอยู่ในใจ ....วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมอยู่เป็นเพื่อนกับเธอ จนเวลาล่วงเลยถึง สองทุ่ม

เวลาช่างผ่านไปไวมาก

.........................

วันนี้ผมไปทำงาน พอเลิกจากเวลางานผมก็ไปเยี่ยมเธอตามที่ได้บอกไว้ ผมซื้อกระเช้าดอกไม้ กับนมไปฝากเธอ

เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมาผมไม่ได้ซื้ออะไรให้เธอเลย ผมอยู่เป็นเพื่อนคุยกับเธอเหมือนทุกๆ วัน ตอนนี้เธอดูสดชื่นขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย และเมื่อถึงเวลาสองทุ่ม ผมก็กลับบ้านตามปกติ


.................ประมาณ 1 เดือนผ่านไป ...............


ตลอดช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ ผมเองได้ไปเยี่ยมเธอทุกวัน พร้อมของฝาก ทั้งยังอยู่เป็นเพื่อนเธอทุกวันด้วย

รอยยิ้มของเธอ ทำให้ผมมีความสุขยิ่งนัก ^^ ...............วันนี้หมอบอกเธอว่า อาการของเธอดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้เช้าหมอจะให้กลับบ้านได้ ส่วนเรื่องตาของเธอ หมอบอกว่ามีทางรักษาได้ แต่ตอนนี้ "ดวงตา" ขาดแคลนเพราะไม่ค่อยมีคนบริจาค

หมอบอกต่อว่า เมื่อหมอได้ ดวงตา เมื่อไหร่ หมอจะรีบติดต่อกลับมา พร้อมทั้งขอเบอร์ของผมไปด้วย

หลังจากหมออกจากห้องไป ผมดูเธอมีความสุขมาก รอยยิ้มแสนน่ารักและความร่าเริงของเธอ เธอบอกผมว่า อย่างน้อยเธอก็ยังมีความหวัง ความหวังที่ว่าสักวันหนึ่งเธอจะกลับมามองเห็นอีกครั้งนึง เธอยังบอกผมอีกว่า

"ความหวัง เป็นสิ่งที่สวยงาม ชีวิตคนเราคงจะดูไร้ความหมายถ้าหากไร้ความหวัง" ผมได้แต่ยิ้ม และเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด

...........................

รุ่งเช้า.... วันนี้เป็นวันหยุด ผมไปหาเธอที่โรงพยาบาล เธอดูร่างเริงขึ้น จนกลับมาเป็นปกติ ^^ ผมบอกกับเธอว่าจะพาไปส่งที่บ้าน

เธอยิ้ม และขอบคุณผมเป็นอย่างมาก

เธอพักอยู่ที่หอแห่งหนึ่ง ไม่ห่างจากตัวเมืองมาก ที่นี่อากาศดีมาก เป็นบรรยากาศที่หาได้ไม่ง่ายจากตัวเมืองเลย ผมพาเธอมาส่ง แล้วได้ฝากเธอไว้กับเจ้าของหอ เจ้าของหอเป็นหญิงม่าย มีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง รุ่นราวคราวเดียวกับเธอ หญิงม่ายผู้ใจดีบอกว่าจะดูแลเธอให้

ผมขอบคุณหญิงม่ายเป็นอย่างมาก และบอกเธอว่า ทุกๆ วันผมจะมาเยี่ยมอีก เธอบอกกับผมว่าเธอเกรงใจ แต่ผมก็บอกเธอต่อว่า

ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ อย่างน้อย.............. ผมเงียบไปครู่นึง (จะให้ผมบอกยังไงล่ะ ...........ในเมื่อตอนนี้ผมแอบชอบเธอซะแล้ว!!! )
ผมตัดบท โดยบอกกับเธอว่า "ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องเกรงใจๆ แหะๆ อ้ะ เดี๋ยวผมต้องรีบไปทำงานก่อนนะครับ พอดีลืมไปว่านัดลูกค้าคนนึงอยู่ครับ"

ผมตอบโดนลืมคิดไปว่า วันนี้เป็นวันหยุด - -" เธอยิ้มให้ผม พร้อมขอบคุณ และโบกมือลาผม

...............................

รุ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นวันหยุดเช่นเคย

ผมไปหาเธอที่หอพัก ผมเห็นเธอกับลังพูดคุยกับลูกสาวของหญิงม่ายอย่างสนุกสนาน ผมแอบมองดูอยู่ห่างๆ แค่ได้เห็นภาพตอนที่เธอยิ้ม ผมก็มีความสุขมากแล้ว ^^ เหมือนว่าลูกสาวหญิงม่ายจะเห็นผม เลยเรียกผมมาหา ถามนู่น ถามนี่ต่างๆ สาระพัด ถามผมว่า ผมเป็นอะไรกับเธอ ? - -"

ผมเงียบไปสักครูก่อนตอบไปว่า "เป็นเพื่อนของเธอครับ ^^"
เธอหันมาทางผม ไม่ได้พูดอะไร แต่ยิ้มให้ ^^

วันนี้ผมพาเธอไปทานข้าว และพาเธอไปเที่ยวหลายที่มาก เพราะว่า เมื่อตอนอยู่ โรงพยาบาลเธอบ่นว่าอยากไปทานอะไรอร่อยๆ อยากไปเที่ยววววว ><

เมื่อถึงตอนเย็นผมก็พาเธอมาส่งที่หอตามปกติ

.
.
.


ผมกับเธอรู้จักกันมากขึ้น เวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกิน
ตอนนี้ผมคบกันเธอได้เกือบ 1 ปีแล้ว ผมเองไม่เคยบอกว่าผมเป็นแฟนเธอ และเธอก็ไม่เคยบอกผมเช่นกัน

เราทั้งคู่ต่างคบกันในความสัมพันธ์ที่รู้กันอยู่ 2 คน

ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมไปหาเธอเป็นประจำ ชวนเธอไปทานข้าวบ้าง ไปเที่ยวบ้าง ต่างๆ นานา มันเป็นเวลาที่ผมมีความสุขมาก

..............วันนี้ผมได้รับข่าวดีจากหมอ หมอบอกผมว่าตอนนี้มีควรบริจาคดวงตาให้แล้ว หมอจะนัดวันและเวลาอีกที เพื่อที่จะให้เธอได้กลับมามองเห็นอีกครั้งนึง แต่หมอบอกว่าค่ใช้จ่ายอาจจะแพงไปหน่อย

ผมบอกกับหมอว่า ผมจะจัดการเรื่องค่าให้จ่ายให้ เพราะตอนนี้ผมเองก็มีเงินในธนาคารพอสมควร

เมื่อเธอทราบข่าว เธอดีใจมาก ...แต่สีหน้าเธอดูเศร้าหมอง ผมจึงถามเธอว่า เป็นอะไร ?

เธอบอกว่า ช่วงเธอตาบอดนี้ เธอไม่สามารถทำงานได้ เธอจึงใช้เงินในบัญชี ซึ่งก็ใกล้จะหมดแล้ว เธอถามผมถึงเรื่องการกู้ยืมเงิน ต่างๆ นานา

ผมบอกกับเธอว่า ไม่เป็นไรหรอก เรื่องค่าใช้จ่ายผมจะจัดการให้ฟรี!! เธอเงียบไปสักครู่ แล้วก็บอกว่า

"ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันเกรงใจคุณมากเลยล่ะ เพียงแค่คุณมาเยี่ยมฉันทุกวัน อยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลาที่ฉันเป็นแบบนี้ เพียงเท่านี้ฉันก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว"

ผมจึงยื่นข้อเสมออีกอย่างว่า "งั้น เอางี้ล่ะกันครับ ผมจะให้คุณยืมเงินผม แล้วถ้าคุณมีเมื่อไหร่ก็ค่อยมาแทนละกันนะครับ โอเคมั้ย ?"

เธอเงียบไปสักครู่ ก่อนตอบว่า "อ่าา ต้องขอขอบคุณมากเลยนะคะ คุณเป็นคนที่ดีจริงๆ" ...อึกๆฮือๆ เธอพูดพร้อมกับร้องไห้ ด้วยความดีใจ

................................

่ก่อนถึงวันที่หมอนัดเธอผ่าตัดดวงตา 3 วัน

ผมได้พาเธอไปทานข้าว ไปเที่ยวเหมือนที่เคยทำมา เพียงแต่วันนี้..... ผมตัดสินใจที่จะบอกให้เธอได้รับรู้ว่าผม "รัก" เธอเข้าแล้ว

หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จผมก็พาเธอไปที่สวนสาธาณะแห่งหนึ่ง ซึ่งอากาศดีมากๆ ด้านหน้าเต็มไปด้วยต้นไม้หลายหลายต้น และหลากหลายพรรณ ด้านหลังเป็นทะเลสาบ

มีม้านั่งไม้ตามจุดต่างๆ ผมกับเธอนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวหนึ่ง หลังทะเลสาบ ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว แต่ทว่ายังไม่หมดแสงอาทิตย์

ผมนั่งคุยกับเธอในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ผมคุยกับเธอ จนเวลาหนึ่ง.... เราทั้งคู่ต่างคิดเรื่องคุยไม่ออก! ผมนิ่งเงียบสักพัก ก่อนที่จะเอ่ยว่า

"เอ่อ.... ผมมีเรื่องอยากบอกคุณ.. ครับ แหะๆ" น้ำเสียงของผมดูตื่นเต้น และตะกุกตะกัก

"หืม มีอะไรหรือคะ ?" น้ำเสียงของเธอ หวานจนผมชะงักไปครู่นึง

"เอ่อ... อืม... อ่า..คือว่า..." ผมเริ่มเหงื่อตก ใจเกิดป๊อดขึ้นมาทันที แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วจะให้ถอยก็คงยาก

"ผมอยาก..บอก.ว่า.. ตลอดเวลาที่ผมได้อยู่กับคุณ .....มันเป็นช่วงเวลา..ที่.ผมมีความสุข.มากที่สุดเลยล่ะครับ......คือ....ผม..อยาก..บอก..ว่า.. ผมรัก ค ค คุ..ณ ครับ

แล้ว...คุณ..รู้..สึก..กับผม...ยังไง..บ้างครับ.."

อ้ากกกกก!! นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย ผมคิดอยู่ในใจ รู้จึกหัวใจเต้นแรงผิดปกติ

---------- เธอนิ่งเงียบ ----------

ยิ่งทำให้ผมรู้สึก สับสน เครียด มึน งง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

"เอ่อ..คือ..ว่า ฉันขอบคุณสำหรับความรู้สึกที่คุณมีให้ฉันนะคะ ตอนนี้ฉันเองก็ยังมองไม่เห็น ฉันอาจจะเป็นภาระของคุณก็ได้นะคะ" เธอพูดพร้อมกับหันหน้ามาทางผม แล้วพูดต่อ

"คุณเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับฉันเลยล่ะคะ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันผ่าตัดตาเสร็จ ฉันจะมาให้คำตอบกับคุณนะคะ" ^^ เธอพูดกับผมอย่างดี

อย่างน้อยผมก็ยังมีความหวัง ผมเพิ่งเข้าใจในคำพูดของเธอที่ว่า ความหวังเป็นสิ่งที่สวยงาม จริงๆ ด้วยครับ ^^

ผมบอกกับเธอว่า ตอนนี้เริ่มดึกแล้ว เดี๋ยวจะำไปส่งที่หอพัก ....เธอยิ้มให้ผม และพูดเหมือนอย่างเคยว่า ขอบคุณนะคะ ^^

...............................

คุณเคยได้ยินคำว่าโชคชะตาชอบเล่นตลกไหมครับ !?! ซึ่งตอนนี้มันได้เกิดขึ้นกับผมอย่างจัง !?!

ก่อนหน้าวันที่เธอจะผ่าตัดดวงตา 1 วัน บริษัทของผมประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ จึงทำให้ต้องล้มละลาย !!! พนักงานทุกคนต่างตกงานกับทั้งหมด !! ที่สำคัญคือ ผมถูกหัวหน้าบริษัทป้ายความผิดมาให้ผม !! ทำให้ตอนนี้ผมมีหนี้สินมากมายหลายล้านบาท

วันแรกที่ผมรู้ข่าว ผมถึงกับอึ้ง! ช็อค! ไม่คิดว่าจะมีเห็นการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับผม ค่าบ้าน ค่ารถก็ยังผ่อนไม่หมด

และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เรื่องค่าผ่าตัดดวงตาของเธอคนนั้น! ซึ่งขืนเป็นแบบนี้ แล้วผมจะเอาเงินที่ไหนไปรักษาเธอ

ผมเครียดมาก ถึงมากที่สุด ......ทำให้วันนี้ผมไม่ได้ไปหาเธอที่หอพัก ผมไ่ม่กล้าสู้หน้าเธอ ไม่กล้าบอกความจริงให้เธอฟัง

ตอนเย็น เธอโทรมาหาผม .......ถามผมว่าทำไมวันนี้ไม่ไปหาเธอหรือ ?

ผมไม่กล้าบอกความจริงต่อเธอ จึงโกหกเธอไปว่า วันนี้ลูกค้าคนสำคัญเขานัดคุยเรื่องงานทั้งวันเลย ...ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เลย....

ผมคุยกับเธออยู่นานแสนนาน ถึงตอนนี้ผมจะมีความทุกข์ เครียดมาก แต่พอได้คุยกับเธอ ได้ยินเสียงเธอมันก็ทำให้ผมมีความสุขขึ้นมาได้

หลังจากวางโทรศัพท์ไปแล้ว ผมนั่งครุ่นคิด หาทางออกของปัญหา

......ตึ๊ดๆๆ ติ๊ดๆๆ..... เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น โชว์เบอร์ที่ผมไม่เคยรู้จัก

ผมรับโทรศัพท์

"สวัสครับ คุณนวคุณรึเปล่าครับ ?" เขาพูดกับผม

"อ่า ครับใช่แล้วล่ะครับ คุณเป็นใครเหรอครับ ?" ผมถามอย่างสงสัย และงงๆ เป็นเอามาก

"ฉันเอง กฤษ ไงจำฉันได้หรือเปล่า" เขาพูดอย่างเป็นกันเอง

"อ๋อ กฤษเป็นอย่างไงบ้าง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเนี่ย สบายดีหรือเปล่า" ผมถาม

กฤษ เป็นเพื่อนสมัยมัธยม เป็นคนที่เพอร์เฟ็กมาก หล่อ รวย เรียนเก่ง ดนตรีเด่น กีฬาเยี่ยม ฯลฯ

ถึงตอนนี้ กฤษ ได้เป็นถึงเศรษฐีที่ร่ำรวยมากคนนึง

"ฉันรู้นะว่าตอนนี้ นายกับคบกับคนคนหนึ่งอยู่ และก็รู้ด้วยว่าตอนนี้เรื่องราวมันเป็นยังไง ทั้งเรื่องที่นายตกงาน หัวหน้าป้ายความผิด ฯลฯ....." เขาเงียบไปสักครู่นึง

"เฮ้ย! นายรู้เรื่องได้ยังไง ใครเป็นคนบอก " ผมตกใจมากที่ได้ยินเช่นนี้

.
.

หลังจากที่ผมคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็หาทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้ !!!!

.................................

เขาบอกผมว่า เขารู้เรื่องราวทุกอย่าง รู้ว่าผมตกงาน และเรื่องที่ผมรักเธอด้วยเช่นกัน

เขามาเพื่อยื่นข้อเสนอให้ผม !!!
เขาบอกผมว่า เธอที่ผมคบด้วยคนนี้ เคยเป็นคนที่เขาแอบชอบ เมื่อหลายปีก่อน !!
เขาบอกกับผมว่า เขาอยากคบกับเธอ โดยจะรักเธอเหมือนกับที่ผมรักเธอ
เขาบอกเขาจะจ่ายค่าผ่าตัดดวงตาให้เธอ และจะดูแลเธอเป็นอย่างดี จากนี้

เงื่อนไขก็คือ ให้ผมเลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอ !!!!!!

ผมเงียบไปนานแสนนาน ครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง

กฤษเองก็เป็นเพื่อนของผม เขาเป็นคนดี แม้จะเจ้าเล่ห์ไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็เป็นคนรักษาคำพูด ทั้งยังดูแลคนอื่นเก่งด้วย ผมเป็นเพื่อนกับเขามานาน จึงรู้นิสัยเขาดี ที่สำคัญเธอไม่เคยเห็นหน้าผม เธอเพียงแค่เคยได้ยินเสียงผม ซึ่งน้ำเสียงและนิสัยหลายๆ อย่างของเขาเหมือนกับผมมาก

จากนั้นผมก็เล่าเรื่องต่างๆ ที่เคยคบกับเธอมาทั้งหมด นั่นก็เพื่อ.......แผนการสลับตัวครั้งนี้ !?!

ผมคิดว่า หากเธอได้คบกับเขา เธอคงจะมีความสุขกว่านี้ กว่าที่เคยคบกับผม....... ผมอยากให้เธอมีความสุข มากกว่าต้องมาทนทุกข์อยู่กับผม.....

.........................

วันนี้หลังจากที่เธอผ่าตัดดวงตา เธอถูกส่งมาอยู่ที่ห้องพิเศษ

ผมไปเยี่ยมเธอที่ห้อง พร้อมกับเขา แม้ผมจะอยู่ในห้อง ผมก็ไม่สามารถคุยได้เลยแม้แต่น้อย เพราะเงื่อนไขที่ว่าผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธอ

ผมนั่งดู เขากับเธอ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เป็นกันเองอย่างมาก และมันก็เป็นไปตามแผน เธอไม่รู้สึกแปลกใจเลย

ผมได้แต่มองดูรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ของเธอเพียงเท่านี้ก็ทำให้ผมมีความสุขมากแล้ว......

แต่ คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าคนที่คุณรัก อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม แต่คุณกลับไม่สามารถพูดคุยกับเธอได้เลย ?

หลังจากนั้น เธอบอกให้เขาช่วยแกะผ้าปิดตาให้ที เธออยากจะมองเห็นอีกครั้งนึง !!!

..............................

เขาแกะผ้าที่ปิดตาเธออย่างช้าๆ ......ผมจึงต้องขอตัวออกจากห้องก่อน เพราะเดี๋ยวเธอเกิดเห็นผมเข้า

ตอนนี้ผมรู้สึกเศร้ายิ่งนัก มันเป็นความโศกเศร้าเกินว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ....ผมร้องไห้....

"คุณจำได้มั้ยคะ ว่าตอนที่ดวงตาของฉันกลับมาเป็นปกติ ฉันจะให้คำตอบกับคุณ ?" เสียงของเธอดังออกมาจากห้อง ทำให้ผมหยุด และแอบฟัง

"จำได้สิครับ แต่ผมว่าคุณคงผิดหวังแน่เลย ที่ผู้ชายคนที่ดูแลคุณมาตลอด หน้าตาไม่ได้เรื่องทั้งยัง ไม่ได้ร่ำรวยอะไรด้วย" เขาพูดอย่างถ่อมตัวมากๆ

"มันไม่สำคัญหรอกคะ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม แต่คุณดีกับฉันมาก ดูแลฉันตลอดเวลาเลย....... ฉันอยากบอกว่า ฉันก็รักคุณคะ" ^^

คำตอบของเธอ ทำให้ผมทรุดเข่าลงกับพื้น ร้องไห้ ออกมาจากไม่เกรงใจใคร .........

ผมเดินหนีออกจากบริเวณนั้นออกไปให้ไกลที่สุด ผมไม่รู้ว่าทำไม ? ผมรู้ตัวอีกที ผมก็มาอยู่หน้าโรงพยาบาลแล้ว

ผมวิ่งกลับไปที่รถของกฤษ นั่งทำใจอยู่ที่นั่น ....แต่สายตาผม หลันเหลือบเห็น ป้ายทะเีบียนรถของเขา ......

และ ใช่แล้ว.. มันเป็นป้ายทะเบียนเดียวกันกับรถที่ชนเธอครั้งนั้น !!!

ผมโกรธมากกกก ผมโกรธ โกรธจนกำปั้นทุบลงที่รถของเพื่อนผม เีสียงดังจนคนแถวนั้นต้องหันมามอง.... ผมไม่สนใจ รีบขึ้นไปหาเขา และจะต่อยหน้ามันซักหลายๆ หมัด ให้หายแค้น พลางคิดอยู่ในใจว่า

'ไอ่กฤษนะ ไอ่กฤษ บังอาจมากที่ทำกับคนที่ผมรักซะขนาดนี้'

ผมจะเข้าไปบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น รวมถึงไอ่คนชั่วที่มันชนเธอวันนั้นด้วย ระหว่างทางผมก็เจอเขาโดยบังเอิญ เขาอยู่กับเธอที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล

ผมเดินตรงเข้าไปหาเขา แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะหันมาทางผม ..ผมกลับได้เห็นรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเธอเข้าก่อน ....เธอดูมีความสุขมากๆ อาจจะมากกว่าที่คบกับผมก็ได้

ผมหยุดอยู่กับที่ มองเขาและเธออยู่ห่างๆ พลางคิดอยู่ในใจว่า จะดีแล้วหรือ ถ้าหากเราบอกความจริงทั้งหมด เธออาจจะมาคบกับผมก็ได้ ...แต่ในสภาพนี้

ผมตกงาน หนี้สินล้นตัว ไม่มีอะไรดีเลยในชีวิต ....ชีวิตของเธอควรจะมาอยู่กับผมแน่เหรอ !?!

เมื่อคิดไปคิดมา ผมจึงตัดสินใจ จะไม่บอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น ...... จะปล่อยให้เรื่องทุกอย่างจบเพียงเท่านี้

นั่นคือ........เธอกับเขา มีความสุข.......... ส่วนตัวผมจะเป็นอย่างไรก็ช่าง..

.
.
.


เช้าวันรุ่้งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์นับ 10 สาย เพื่อนผมโทรมาหา.......

เพื่อนผมโทรมาด้วยเรื่องสำคัญสุดๆ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผมด้วย

เพื่อนผมบอกข่าวร้ายว่า .... "ไอ่กฤษ ตายแล้ว!!!! มันเพิ่งถูกรถชนตายเมื่อวานนี้ ตอนเย็น" เพื่อนผมพูดอย่างตกใจ

"แล้วมีใครมาด้วยกับมันหรือเปล่า" ผมหมายถึงเธอคนนั้น

"ไม่มีนะ มันขับรถมาคนเดียว สงสัยจะกลับบ้านน่ะ.... ไม่น่าเลยว่ะ ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ" เพื่อนผมพูดด้วยน้ำเสียงสงสาร

.
.


หลังจากคุยกันเสร็จ ผมก็นึกถึงเธอเป็นคนแรก ตอนนี้เธอคงอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะต้องนอนรอดูอาการ

ตอนนี้ในหัวผมคิดอย่างหนัก ผมควรจะไปบอกความจริงกับเธอดีไหม? หรือจะปล่อยให้เป็นแบบนี้? ผมควรจะทำอย่างไรดี?

หากผมบอกความจริงไป เธอจะรับได้หรือไม่ แล้วเธอยังจะคบกับผมอยู่หรือเปล่า คนที่มีหนี้สินติดตัวหลายล้าน.....

ผมคิดต่างๆ นานาหลายอย่างมาก หลายชั่วโมง และในที่สุดผผมก็ตัดสินใจว่าจะไปบอกเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง

ไม่ว่าเธอจะรู้สึกยังไง มันก็ดีกว่าที่ผม จะไม่ให้เธอรู้เลยว่า ..... ผมรักเธอ..... มากแค่ไหน

ผมคิดหนักจนสมองเหนื่อยล้า จึงหลับไป และตัดสินใจแน่วแน่ว่าพรุ่งนี้จะไปบอกเธอ ให้ได้.....

...........................

รุ่งเช้า ผมตื่นขึ้นมา ยังคงงัวเงีย เพราะเมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ เรื่องราวมากมายเข้ามาถาถม

ผมอาบน้ำ แต่งตัว และรีบไปที่โรงพยาบาล........ ผมแปลกใจมาก ที่เธอไม่ได้อยู่ที่ห้องพักที่โรงพยาบาล

ผมพยายามติดต่อกับหมอหลายคน จนได้รู้ความจริงว่า...............

เธอได้จากลาโลกนี้ไปแล้ว ..............

.
.

หมอท่านนึงเล่าให้ผมฟังว่า "เมื่อคืนก่อน เธอเศร้าเสียใจมาก เพราะคนรักเพิ่งตายจากไป ผมเองก็พยายามเข้าไปปลอบเธอ จนเห็นว่าเธอเป็นปกติแล้ว ผมจึงกลับไปที่ห้องทำงานต่อ" หมอกล่าว

หมอพูดต่อว่า "หลังจากนั้น ไม่นาน เรื่องก็เข้าถึงหูหมอ เพราะเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย!!....... เธอยังได้ทิ้งจดหมายไว้นะ คุณจะลองอ่านดูไหม?"

ผมหยิบจดหมายเล็กๆ มาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนเปิดอ่านข้อความในนั้น

"คุณเชื่อในเรื่องโชคชะตาหรือเปล่า และคุณเคยได้ยินคำว่า "โชคชะตาชอบเล่นตลกไหม?" เป็นเรื่องบังเอิญที่ทำให้ฉันได้พบกับผู้ชายคนนึง เป็นคนที่ดีมากๆๆๆ ดีจนที่ฉันหลงรัก ทั้งที่ยังไม่เคยได้เห็นหน้าเขา ไม่เคยรู้จักตัวตนเขาดีพอ ..........วันนี้ฉันได้พบกับผู้ชายคนนั้นแล้ว ฉันดีใจมาก ฉันเคยบอกกับตัวเองว่า ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง จะร่ำรวยจะยากจน หน้าตาดูไม่ดียังไงฉันก็จะรักเขา เพราะเขาเป็นคนที่ดีกับฉันมาก.........แต่วันนี้เขาคนนั้นกลับจากลาฉันโดยไม่ทันได้บอกกล่าว

ท้ายนี้ อยากให้รู้ว่า ฉันรักคุณคะ คุณ"คุณ" .........ถ้าชาติหน้ามีจริง เราคงได้กลับมาเจอกันอีกแน่............................................................"

ผมอ่านทั้งน้ำตา มันไหลเล่อล้นออกมาจากหัวใจ ผมได้แต่โทษตัวเองในทุกๆ เรื่อง ถ้าผมมาบอกให้เธอรับรู้เร็วกว่านี้ ว่าคนที่ดูแลเธอตลอดมาไม่ใช่เขา แต่เป็นผม

อย่างน้อย วันนี้ผมก็คงไม่ต้องเสียเธอไป ผมโทษตัวเองที่ปล่อยให้เวลาอันสำคัญผ่านไป ตัดสินใจนานเกินไป ไม่เชื่อใจตัวเอง ผมได้แต่โทษตัวเอง และร้องไห้อย่าง บ้าคลั่ง จนทำให้ผมหมดสติไป .................................


จบแล้วล่ะครับ เรื่องของผม ^^

ท้ายนี้ผมอยากฝากไว้ว่า

"ความรัก ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินเพียงลำพัง คุณเคยถามคนที่คุณรักบ้างไหม ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคุณ ?"

"อย่าปล่อยให้เวลาของคุณกับคนที่คุณรัก ผ่านไปโดยเหตุผลของตัวเอง เพราะวันที่คุณรู้ตัว ...ทุกอย่างมันอาจสายเกินไป..."

ขอบคุณเรื่อง(ไม่)สั้นดีๆ จาก zone-it.com


สถานะ... กูเจ็บ.

โพสต์โดย : สถานีคำคม ~ สถานี คำคม

เพจ โชคชะตาชอบเล่นตลก โพสต์โดย สถานีคำคม เมื่อ วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556